Chat
Ask me anything
Ithy Logo

กระบวนการฟ้องหย่าในประเทศไทย: สิ่งที่คุณควรรู้

การยุติความสัมพันธ์สมรสผ่านกระบวนการทางกฎหมาย

divorce-process-thailand-guide-0nneepom

ประเด็นสำคัญในการฟ้องหย่า

  • เหตุแห่งการฟ้องหย่า: การฟ้องหย่าจะกระทำได้ก็ต่อเมื่อมีเหตุตามที่กฎหมายกำหนดไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1516 ซึ่งมีทั้งหมด 10 ประการ เช่น การมีชู้ การประพฤติชั่ว การจงใจละทิ้งร้างเกิน 1 ปี หรือการสมัครใจแยกกันอยู่เกิน 3 ปี
  • กระบวนการทางศาล: การฟ้องหย่าจะต้องยื่นฟ้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัว ซึ่งเป็นศาลพิเศษที่มีอำนาจพิจารณาคดีครอบครัวโดยเฉพาะ
  • การเรียกร้องสิทธิ์: นอกจากการขอให้ศาลพิพากษาให้หย่าขาดจากกันแล้ว ในคดีฟ้องหย่ายังสามารถเรียกร้องสิทธิ์อื่นๆ ได้ เช่น ค่าเลี้ยงชีพ ค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร อำนาจปกครองบุตร และการแบ่งสินสมรส

ความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับการฟ้องหย่า

การฟ้องหย่าเป็นกระบวนการทางกฎหมายที่เกิดขึ้นเมื่อคู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องการยุติความสัมพันธ์สมรส แต่ไม่สามารถตกลงหย่าขาดจากกันได้โดยความยินยอม การดำเนินการฟ้องหย่าจะต้องกระทำผ่านศาลและต้องมีเหตุผลตามที่กฎหมายกำหนดไว้ การหย่าโดยคำพิพากษาของศาลจะทำให้สถานะความเป็นสามีภรรยาสิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการ และศาลอาจมีคำสั่งในประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การแบ่งทรัพย์สิน หรือการดูแลบุตร

ในการฟ้องหย่า ไม่ใช่ทุกกรณีที่จะสามารถยื่นฟ้องได้โดยไม่มีเหตุผลรองรับ กฎหมายไทยกำหนดเหตุแห่งการฟ้องหย่าไว้โดยเฉพาะ เพื่อให้กระบวนการยุติการสมรสเป็นไปอย่างถูกต้องและเป็นธรรม การฟ้องหย่าจึงไม่ใช่เพียงการแสดงเจตนาไม่ต้องการอยู่ร่วมกันต่อไป แต่ต้องอาศัยข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีเหตุตามกฎหมายเกิดขึ้น

ความแตกต่างระหว่างการหย่าโดยความยินยอมและการฟ้องหย่า

การสิ้นสุดของการสมรสสามารถทำได้สองวิธีหลักๆ คือ การหย่าโดยความยินยอมและการหย่าโดยคำพิพากษาของศาล

  • การหย่าโดยความยินยอม: วิธีนี้เกิดขึ้นเมื่อคู่สมรสทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะหย่าขาดจากกันและทำหนังสือข้อตกลงการหย่าเป็นลายลักษณ์อักษร โดยต้องมีพยานอย่างน้อยสองคน จากนั้นจึงนำไปจดทะเบียนหย่าที่สำนักทะเบียน การหย่าประเภทนี้มักจะรวดเร็วและง่ายกว่า เนื่องจากการตกลงกันได้ในประเด็นต่างๆ เช่น การแบ่งทรัพย์สินและการดูแลบุตร
  • การฟ้องหย่า: วิธีนี้ใช้ในกรณีที่คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ยินยอมหย่า หรือไม่สามารถตกลงกันในประเด็นสำคัญได้ ฝ่ายที่ต้องการหย่าจะต้องยื่นคำฟ้องต่อศาล โดยต้องแสดงให้เห็นว่ามีเหตุแห่งการฟ้องหย่าตามกฎหมาย ศาลจะพิจารณาจากพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงที่นำเสนอ และหากศาลเห็นว่ามีเหตุหย่าตามกฎหมายจริง ก็จะมีคำพิพากษาให้หย่า

ในกรณีที่ไม่สามารถตกลงกันได้ การฟ้องหย่าจึงเป็นหนทางเดียวในการยุติความสัมพันธ์สมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมาย


เหตุแห่งการฟ้องหย่าตามกฎหมายไทย

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1516 ได้บัญญัติเหตุแห่งการฟ้องหย่าไว้ 10 ประการ ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญที่ผู้ฟ้องต้องมีเพื่อยื่นคำฟ้องต่อศาล เหตุเหล่านี้ครอบคลุมสถานการณ์ต่างๆ ที่ทำให้การอยู่ร่วมกันฉันสามีภรรยาไม่สามารถดำเนินต่อไปได้อย่างปกติสุข

เหตุหลัก 10 ประการในการฟ้องหย่า

เหตุแห่งการฟ้องหย่าทั้ง 10 ประการ ได้แก่:

  1. สามีหรือภริยาอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องผู้อื่นฉันภริยาหรือสามี เป็นชู้หรือมีชู้ หรือร่วมประเวณีกับผู้อื่นเป็นอาจิณ
  2. สามีหรือภริยาประพฤติชั่ว ไม่ว่าความประพฤติชั่วนั้นจะเป็นความผิดอาญาหรือไม่ ถ้าการกระทำนั้นเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่ง:
    • ได้รับความอับอายขายหน้าอย่างร้ายแรง
    • ได้รับความดูถูกเกลียดชัง หรือเดือดร้อนเกินควรในเมื่อเอาสภาพ ฐานะ และความเป็นอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยามาพิจารณา
  3. สามีหรือภริยาทำร้าย หรือทรมานร่างกายหรือจิตใจอีกฝ่ายหนึ่ง หรือหมิ่นประมาทหรือเหยียดหยามอีกฝ่ายหนึ่งหรือบุพการีของอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งการกระทำนั้นถึงขนาดเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่งได้รับอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ หรือได้รับความอับอายขายหน้าอย่างร้ายแรง
  4. สามีหรือภริยาจงใจละทิ้งร้างอีกฝ่ายหนึ่งไปเกินหนึ่งปี
  5. สามีหรือภริยาต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก และได้ถูกจำคุกเกินหนึ่งปีในความผิดที่อีกฝ่ายหนึ่งมิได้มีส่วนก่อให้เกิดการกระทำความผิดหรือยินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจด้วย และการเป็นจำคุกนั้นเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่งได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกินควรในการครองชีพของครอบครัวและฐานะของครอบครัวนั้น
  6. สามีหรือภริยาถูกศาลสั่งให้เป็นคนสาบสูญ หรือไปจากภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่เป็นเวลาเกินสามปี โดยไม่มีใครทราบแน่ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร
  7. สามีหรือภริยาไม่ให้ความช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูอีกฝ่ายหนึ่งตามสมควร หรือทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการที่เป็นสามีหรือภริยากันอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ ตามที่ความสามารถและฐานะของตนจะพึงให้หรือจะพึงกระทำได้ ถึงขนาดที่อีกฝ่ายหนึ่งเดือดร้อนเกินควรในเมื่อเอาสภาพ ฐานะและความเป็นอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยามาพิจารณา
  8. สามีหรือภริยามีวิกลจริตตลอดมาเกินกว่าสามปี มีลักษณะอาการอันยากแก่การที่จะหายได้ และความเป็นวิกลจริตถึงขนาดที่จะทนอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาต่อไปไม่ได้
  9. สามีหรือภริยาผิดทัณฑ์บนที่ทำให้ไว้เป็นหนังสือในเรื่องความประพฤติ
  10. สามีหรือภริยามีสภาพแห่งกาย ทำให้สามีหรือภริยานั้นไม่อาจร่วมประเวณีได้ตลอดกาล

เหตุเหล่านี้เป็นพื้นฐานสำคัญที่ศาลจะใช้พิจารณาในการมีคำพิพากษาให้หย่าหรือไม่ หากไม่มีเหตุใดเหตุหนึ่งตามที่กฎหมายกำหนด การฟ้องหย่าก็อาจไม่สำเร็จ

Infographic แสดงขั้นตอนการจดทะเบียนหย่า

Infographic แสดงขั้นตอนการจดทะเบียนหย่า (กรณีความยินยอม)


ขั้นตอนและกระบวนการฟ้องหย่าในศาล

เมื่อมีเหตุแห่งการฟ้องหย่าตามกฎหมาย และคู่สมรสไม่สามารถตกลงหย่ากันได้ การฟ้องหย่าต่อศาลเยาวชนและครอบครัวเป็นขั้นตอนที่ต้องดำเนินการ มีกระบวนการหลายอย่างที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่การเตรียมเอกสารไปจนถึงการสืบพยานในศาล

การเตรียมเอกสารสำหรับการฟ้องหย่า

การเตรียมเอกสารเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญในการฟ้องหย่า เอกสารที่จำเป็นมักประกอบด้วย:

  • ใบสำคัญการสมรส
  • สำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประจำตัวประชาชนของคู่สมรส
  • สูติบัตรบุตร (หากมี) และทะเบียนบ้านของบุตร
  • เอกสารเกี่ยวกับทรัพย์สิน เช่น โฉนดที่ดิน หนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ห้องชุด ทะเบียนรถ รายการบัญชีธนาคาร
  • พยานหลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเหตุแห่งการฟ้องหย่า เช่น ภาพถ่าย ข้อความสนทนา พยานบุคคล

การรวบรวมเอกสารและพยานหลักฐานให้ครบถ้วนและเป็นระบบจะช่วยให้การดำเนินคดีในศาลเป็นไปอย่างราบรื่น

การยื่นคำฟ้องต่อศาล

คำฟ้องหย่าจะต้องยื่นต่อศาลเยาวชนและครอบครัวที่มีเขตอำนาจ โดยพิจารณาจากภูมิลำเนาของจำเลย หรือสถานที่ที่เกิดเหตุแห่งการฟ้องหย่า ("มูลคดี") ทนายความจะช่วยร่างคำฟ้องซึ่งต้องระบุข้อเท็จจริงที่เป็นเหตุแห่งการฟ้องหย่าอย่างชัดเจน พร้อมทั้งคำขอให้ศาลมีคำพิพากษาในประเด็นต่างๆ ที่ต้องการเรียกร้อง

กระบวนการพิจารณาคดีในศาล

หลังจากยื่นคำฟ้องและศาลรับฟ้องแล้ว ศาลจะส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไปยังจำเลย จำเลยมีสิทธิ์ยื่นคำให้การต่อสู้คดี หลังจากนั้น ศาลจะนัดคู่ความเพื่อไกล่เกลี่ย หากไม่สามารถไกล่เกลี่ยได้ คดีจะเข้าสู่กระบวนการสืบพยาน คู่ความแต่ละฝ่ายจะนำพยานหลักฐานเข้าสืบต่อศาลเพื่อพิสูจน์ข้ออ้างของตน เมื่อการสืบพยานเสร็จสิ้น ศาลจะนัดฟังคำพิพากษา

ระยะเวลาในการดำเนินคดีฟ้องหย่าอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของคดี จำนวนพยาน และความสามารถในการตกลงกันของคู่ความ คดีที่ไม่ซับซ้อนและคู่ความพอจะตกลงกันได้ในบางประเด็นอาจใช้เวลาไม่นานนัก แต่คดีที่มีข้อพิพาทรุนแรงและซับซ้อนอาจใช้เวลานานหลายเดือนหรือเป็นปี


สิทธิ์ที่สามารถเรียกร้องได้ในการฟ้องหย่า

นอกจากการขอให้ศาลพิพากษาให้หย่าขาดจากกันแล้ว ในคดีฟ้องหย่ายังสามารถเรียกร้องสิทธิ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์สมรสได้ ซึ่งสิทธิ์เหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการจัดการชีวิตหลังจากหย่าร้าง

การเรียกร้องค่าทดแทน

หากเหตุแห่งการฟ้องหย่าเกิดจากการที่คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นชู้หรือมีชู้ อีกฝ่ายหนึ่งมีสิทธิ์เรียกร้องค่าทดแทนจากคู่สมรสที่กระทำผิดและจากชู้ได้ การเรียกร้องค่าทดแทนนี้เป็นไปตามมาตรา 1523 ของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

การเรียกร้องค่าเลี้ยงชีพ

ตามมาตรา 1526 หากการหย่าเป็นความผิดของคู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแต่ฝ่ายเดียว และการหย่านั้นจะทำให้อีกฝ่ายหนึ่งยากจนลงเพราะไม่มีรายได้พอจากทรัพย์สินหรือจากการงานตามที่เคยทำอยู่ระหว่างสมรส อีกฝ่ายหนึ่งมีสิทธิ์เรียกร้องค่าเลี้ยงชีพจากคู่สมรสที่กระทำผิดได้ ศาลจะกำหนดค่าเลี้ยงชีพโดยคำนึงถึงฐานะความเป็นอยู่ของคู่สมรสผู้ที่ต้องรับผิดชอบ สภาพแห่งความเป็นอยู่ของผู้ที่ได้รับค่าเลี้ยงชีพ และเหตุอันควรอย่างอื่น

การเรียกค่าเลี้ยงชีพนี้จะแตกต่างจากค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร ซึ่งเป็นสิทธิ์ของบุตรที่ผู้ปกครองต้องรับผิดชอบ

การแบ่งสินสมรส

สินสมรสคือทรัพย์สินที่คู่สมรสได้มาระหว่างสมรส และเป็นทรัพย์สินที่กฎหมายกำหนดให้เป็นกรรมสิทธิ์ร่วมกันของคู่สมรส เมื่อมีการหย่า ศาลจะดำเนินการแบ่งสินสมรสระหว่างคู่สมรส การแบ่งสินสมรสจะพิจารณาจากพยานหลักฐานเกี่ยวกับที่มาของทรัพย์สิน และอาจมีการตกลงกันระหว่างคู่ความ หรือให้ศาลเป็นผู้มีคำสั่ง

ทรัพย์สินส่วนตัวของแต่ละฝ่ายที่ได้มาก่อนสมรส หรือที่ได้มาระหว่างสมรสโดยการรับมรดกหรือโดยการให้โดยเสน่หา จะไม่ถือเป็นสินสมรสและไม่ต้องนำมาแบ่ง

อำนาจปกครองบุตรและค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร

หากคู่สมรสมีบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ศาลจะต้องมีคำสั่งเกี่ยวกับอำนาจปกครองบุตรและค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร ในกรณีที่การหย่าเกิดจากความยินยอม คู่สมรสสามารถตกลงกันเรื่องอำนาจปกครองบุตรได้ แต่ข้อตกลงนั้นต้องทำเป็นหนังสือและอาจต้องให้ศาลรับรอง หากไม่สามารถตกลงกันได้ ศาลจะเป็นผู้มีคำสั่งโดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของบุตรเป็นสำคัญ

ศาลจะพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ เช่น ความเหมาะสมของผู้ปกครองแต่ละฝ่าย สภาพแวดล้อม ความต้องการของบุตร (หากบุตรมีอายุและความสามารถพอที่จะแสดงความเห็นได้) และความสามารถในการให้การดูแลและสนับสนุนบุตร

ค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรจะถูกกำหนดโดยศาลโดยคำนึงถึงฐานะของผู้มีหน้าที่จ่ายและผู้รับ รวมถึงความจำเป็นของบุตร


ค่าใช้จ่ายในการฟ้องหย่า

การฟ้องหย่ามีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องหลายส่วน ซึ่งผู้ฟ้องควรทราบเพื่อเตรียมความพร้อมทางการเงิน

ค่าธรรมเนียมศาล

คดีฟ้องหย่าโดยทั่วไปถือเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ ซึ่งมีค่าธรรมเนียมศาลในอัตราที่ไม่สูงมากนัก ประมาณ 200 บาท อย่างไรก็ตาม หากมีการเรียกร้องเกี่ยวกับทรัพย์สิน เช่น การแบ่งสินสมรส อาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมที่คำนวณตามมูลค่าทรัพย์สินที่เรียกร้อง นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้อง ซึ่งอาจอยู่ประมาณ 500-700 บาท

ค่าทนายความ

ในกรณีที่คู่ความไม่สามารถดำเนินการด้วยตนเองได้ หรือต้องการความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ การว่าจ้างทนายความจะเป็นค่าใช้จ่ายหลักในการฟ้องหย่า ค่าทนายความจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของคดี ระยะเวลาในการดำเนินคดี และประสบการณ์ของทนายความ


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฟ้องหย่า

การฟ้องหย่าใช้เวลานานเท่าใด?

ระยะเวลาในการฟ้องหย่าไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของคดี ความสามารถในการตกลงกันของคู่ความ และปริมาณคดีในศาล คดีที่ตกลงกันได้บางส่วนหรือมีพยานหลักฐานชัดเจนอาจใช้เวลาไม่นานนัก แต่คดีที่มีข้อพิพาทรุนแรงและต้องสืบพยานจำนวนมากอาจใช้เวลาเป็นปี

ต้องมีพยานในการฟ้องหย่าหรือไม่?

การฟ้องหย่าต้องอาศัยพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์เหตุแห่งการฟ้องหย่าตามกฎหมาย พยานอาจเป็นพยานบุคคล พยานเอกสาร หรือพยานวัตถุ ขึ้นอยู่กับเหตุที่ใช้ฟ้องหย่า

สามารถฟ้องหย่าชาวต่างชาติในศาลไทยได้หรือไม่?

สามารถฟ้องหย่าชาวต่างชาติในศาลไทยได้ หากศาลไทยมีเขตอำนาจในการพิจารณาคดี ซึ่งมักจะพิจารณาจากภูมิลำเนาของจำเลย หรือสถานที่ที่เกิดเหตุแห่งการฟ้องหย่า

หากคู่สมรสมีชู้ สามารถเรียกร้องอะไรได้บ้าง?

หากเหตุแห่งการฟ้องหย่าคือการมีชู้ สามารถเรียกร้องค่าทดแทนได้ทั้งจากคู่สมรสที่กระทำผิดและจากชู้ นอกจากนี้ยังสามารถเรียกร้องให้มีการแบ่งสินสมรส และหากการมีชู้เป็นเหตุให้เกิดความยากจนลง อาจเรียกร้องค่าเลี้ยงชีพได้


บทสรุป

การฟ้องหย่าเป็นกระบวนการทางกฎหมายที่ซับซ้อนและต้องอาศัยเหตุผลตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ผู้ที่ต้องการฟ้องหย่าควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเหตุแห่งการฟ้องหย่า ขั้นตอนในศาล และสิทธิ์ที่สามารถเรียกร้องได้ การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย เช่น ทนายความคดีครอบครัว จะช่วยให้เข้าใจกระบวนการและเตรียมความพร้อมได้อย่างเหมาะสม


References


Last updated May 8, 2025
Ask Ithy AI
Download Article
Delete Article