Expected Goals หรือที่เรียกกันติดปากว่า xG ได้กลายเป็นหนึ่งในสถิติที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในโลกฟุตบอลยุคใหม่ มันไม่ใช่แค่ตัวเลขธรรมดาๆ แต่เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ที่ทรงพลังซึ่งช่วยให้เราเข้าใจคุณภาพของโอกาสในการทำประตูได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น แทนที่จะมองแค่จำนวนครั้งที่ยิงหรือจำนวนประตูที่ทำได้ xG จะประเมินว่าจากการยิงแต่ละครั้งนั้น ควรจะ เป็นประตูมากน้อยเพียงใด โดยอ้างอิงจากข้อมูลการยิงลักษณะเดียวกันในอดีตนับแสนนับล้านครั้ง ข้อมูลนี้อัปเดตล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ 9 พฤษภาคม 2025
ไฮไลท์สำคัญของการคำนวณ xG
- การวิเคราะห์จากข้อมูลมหาศาล: ค่า xG ไม่ได้มาจากการคาดเดา แต่มาจากการวิเคราะห์ข้อมูลการยิงประตูในอดีตจำนวนมหาศาล เพื่อสร้างแบบจำลองทางสถิติที่แม่นยำ
- ปัจจัยหลากหลายมีผลต่อค่า xG: ระยะทาง มุมในการยิง ส่วนของร่างกายที่ใช้ยิง ประเภทของบอลที่ส่งมาให้ และความกดดันจากฝ่ายตรงข้าม ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญในการคำนวณ
- ค่าความน่าจะเป็น 0 ถึง 1: xG ของการยิงแต่ละครั้งจะมีค่าระหว่าง 0 (ไม่มีโอกาสเป็นประตูเลย) ถึง 1 (โอกาสเป็นประตู 100%) ซึ่งบ่งบอกถึง "คุณภาพ" ของโอกาสนั้นๆ
xG คืออะไร และทำไมจึงสำคัญ?
Expected Goals (xG) คือตัวชี้วัดทางสถิติที่ประเมินความน่าจะเป็นที่การยิงแต่ละครั้งจะส่งผลให้เป็นประตู ค่า xG จะถูกกำหนดให้กับการยิงทุกลูก โดยมีค่าตั้งแต่ 0 ถึง 1 ยิ่งค่า xG สูง หมายความว่าโอกาสที่การยิงนั้นจะเป็นประตูยิ่งมีมาก ตามลักษณะของการยิงและข้อมูลในอดีต
ความสำคัญของ xG อยู่ที่การให้ภาพที่ชัดเจนกว่าสถิติแบบดั้งเดิม (เช่น จำนวนการยิง หรือการยิงเข้ากรอบ) ในการประเมินประสิทธิภาพเกมรุกของทีมหรือผู้เล่น ทีมที่สร้างโอกาสที่มีค่า xG สูงอย่างสม่ำเสมอ แม้บางครั้งผลการแข่งขันอาจไม่เป็นใจในระยะสั้น แต่ในระยะยาวมีแนวโน้มที่จะทำประตูได้มากตามคุณภาพโอกาสที่สร้างขึ้น ในทางกลับกัน ทีมที่ยิงประตูได้มากจากโอกาสที่มีค่า xG ต่ำ อาจบ่งบอกถึงความเฉียบคมเป็นพิเศษ หรืออาจมีองค์ประกอบของโชคเข้ามาเกี่ยวข้อง
แผนภาพแสดงตัวอย่างตำแหน่งการยิงในสนามและค่า xG ที่แตกต่างกัน การยิงจากระยะใกล้และมุมที่ดีมักมีค่า xG สูงกว่า
หลักการและปัจจัยในการคำนวณค่า xG
การคำนวณค่า xG อาศัยการวิเคราะห์ข้อมูลการยิงจำนวนมหาศาล (หลายแสนหรือหลายล้านครั้ง) จากเกมฟุตบอลในอดีต โมเดลทางสถิติที่ซับซ้อน ซึ่งมักใช้เทคนิคการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) เช่น Logistic Regression หรือ XGBoost จะถูกนำมาใช้เพื่อระบุว่าปัจจัยใดบ้างที่มีผลต่อโอกาสในการเป็นประตู และให้น้ำหนักความสำคัญของแต่ละปัจจัยอย่างเหมาะสม
ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อค่า xG
ปัจจัยต่างๆ ที่โมเดล xG ส่วนใหญ่นำมาพิจารณา ได้แก่:
- ระยะห่างจากประตู (Distance to goal): โดยทั่วไป ยิ่งยิงจากระยะใกล้ประตูมากเท่าไร โอกาสเป็นประตูก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น การยิงจากในกรอบเขตโทษ 6 หลา ย่อมมีค่า xG สูงกว่าการยิงจากนอกกรอบเขตโทษ 30 หลาอย่างเห็นได้ชัด
- มุมในการยิง (Angle to goal): มุมที่ผู้เล่นยิงไปยังประตูส่งผลอย่างมากต่อความน่าจะเป็นในการทำประตู การยิงจากตำแหน่งตรงกลางหน้าประตูย่อมมีโอกาสดีกว่าการยิงจากมุมแคบๆ ด้านข้าง
- ส่วนของร่างกายที่ใช้ยิง (Body part): การยิงด้วยเท้า (โดยเฉพาะเท้าข้างถนัด) มักจะมีโอกาสเป็นประตูสูงกว่าการโหม่ง หรือการยิงด้วยส่วนอื่นๆ ของร่างกาย
- ประเภทของการผ่านบอลหรือสถานการณ์ก่อนยิง (Type of assist/preceding event):
- การยิงจากการผ่านบอลทะลุช่อง (through ball) ที่ทำให้หลุดเดี่ยว มักจะมี xG สูง
- การยิงจากการเปิดบอลจากด้านข้าง (cross) อาจมี xG แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับคุณภาพของการเปิดและตำแหน่งที่เข้าทำ
- การยิงจากลูกตั้งเตะ (set-piece) เช่น ฟรีคิกโดยตรง หรือการยิงหลังจากการเล่นลูกเตะมุม ก็มีโมเดล xG เฉพาะในการประเมิน
- การยิงหลังจากผู้เล่นเลี้ยงหลบคู่ต่อสู้ (dribble)
- ความกดดันจากผู้เล่นฝ่ายรับ (Defensive pressure): การมีผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามเข้ามาบล็อกหรือกดดันในจังหวะยิง ย่อมทำให้โอกาสเป็นประตูยากขึ้น และส่งผลให้ค่า xG ลดลง
- สถานการณ์ของเกม (Game state): แม้จะไม่ใช่ปัจจัยหลักในทุกโมเดル แต่บางโมเดลอาจพิจารณาสถานการณ์ เช่น การยิงในขณะที่ทีมกำลังนำหรือตาม หรือช่วงเวลาของเกม
- ลักษณะการยิงพิเศษ:
- จุดโทษ (Penalty): โดยทั่วไปมีค่า xG ค่อนข้างคงที่และสูงมาก เนื่องจากเป็นโอกาสทองในการทำประตู มักจะอยู่ที่ประมาณ \(0.76\) ถึง \(0.79\) xG ซึ่งหมายความว่าโดยเฉลี่ยแล้ว จุดโทษ 100 ครั้ง ควรจะเป็นประตู 76-79 ประตู
- ฟรีคิกโดยตรง (Direct Free-Kick): มีโมเดล xG แยกต่างหาก โดยพิจารณาระยะทางและตำแหน่งของฟรีคิก
โมเดล xG จะนำปัจจัยเหล่านี้มาประมวลผลร่วมกัน เพื่อคำนวณค่าความน่าจะเป็น (ระหว่าง 0 ถึง 1) ของการยิงแต่ละครั้ง ตัวอย่างเช่น การยิงด้วยเท้าจากระยะ 12 เมตร ในมุม 30 องศา โดยไม่มีผู้เล่นฝ่ายรับกดดัน อาจมีค่า xG ประมาณ \(0.41\)
ภาพแสดงแนวคิดปัจจัยเรื่องมุมและระยะทางในการยิง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการคำนวณ xG
กระบวนการสร้างโมเดล xG
- การรวบรวมข้อมูล (Data Collection): เก็บข้อมูลการยิงจำนวนมหาศาลจากลีกต่างๆ ทั่วโลก พร้อมรายละเอียดของแต่ละช็อต เช่น ตำแหน่ง, ส่วนที่ใช้ยิง, ลักษณะการแอสซิสต์, ผลลัพธ์ (เข้า/ไม่เข้า/ติดบล็อก)
- การสร้างแบบจำลองทางสถิติ (Statistical Modeling): ใช้เทคนิคทางสถิติและการเรียนรู้ของเครื่อง (เช่น Logistic Regression, Support Vector Machines, Neural Networks, XGBoost) เพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยต่างๆ กับโอกาสในการเกิดประตู
- การตรวจสอบและปรับปรุงโมเดล (Model Validation and Refinement): ทดสอบความแม่นยำของโมเดลกับชุดข้อมูลที่ไม่ได้ใช้ในการฝึกสอน และปรับปรุงโมเดลอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มีความแม่นยำสูงสุด
สมการพื้นฐานอย่างง่ายอาจดูคล้ายกับ:
\[ \text{xG} = f(\text{ระยะทาง}, \text{มุม}, \text{ประเภทการยิง}, \text{ประเภทการจ่ายบอล}, \dots) \]
โดย \(f\) คือฟังก์ชันที่ได้จากการเรียนรู้ของโมเดลจากข้อมูลในอดีต
ประเภทของ xG ที่ควรรู้จัก
นอกจากค่า xG พื้นฐานที่คำนวณจากคุณภาพของโอกาสก่อนทำการยิง (Pre-Shot xG) แล้ว ยังมีค่าสถิติที่เกี่ยวข้องซึ่งให้ข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติม:
Pre-Shot xG (xG ปกติ)
นี่คือค่า xG มาตรฐานที่เรามักพูดถึงกัน โดยจะประเมินคุณภาพของโอกาสในการทำประตู ก่อนที่ลูกบอลจะถูกยิงออกจากเท้าหรือศีรษะของผู้เล่น โดยพิจารณาปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น เช่น ระยะทาง มุม และประเภทของการแอสซิสต์ ไม่ได้คำนึงถึงคุณภาพของการยิงนั้นๆ เช่น ยิงตรงตัวผู้รักษาประตู หรือยิงเสียบสามเหลี่ยม
Post-Shot xG (PSxG) หรือ Expected Goals on Target (xGOT)
PSxG หรือ xGOT จะถูกคำนวณ หลังจากที่ลูกบอลถูกยิงไปแล้วและเป็นการยิงที่ตรงกรอบประตูเท่านั้น มันจะพิจารณาถึงตำแหน่งที่ลูกบอลกำลังจะพุ่งเข้าประตู (เช่น มุมประตู หรือกลางประตู) และบางโมเดลอาจรวมถึงความเร็วของลูกยิง และตำแหน่งของผู้รักษาประตูด้วย PSxG ให้เครดิตกับการยิงที่มีคุณภาพ ซึ่งสามารถเอาชนะผู้รักษาประตูได้หากไม่มีการป้องกันที่ยอดเยี่ยม
- ถ้า PSxG > xG อย่างมีนัยสำคัญ อาจบ่งบอกว่าผู้ยิงมีความสามารถในการจบสกอร์ที่ดีเยี่ยม สามารถเปลี่ยนโอกาสธรรมดาให้เป็นประตูได้ด้วยการยิงที่มีคุณภาพ
- ถ้า PSxG ≈ xG หมายความว่าคุณภาพการยิงสอดคล้องกับคุณภาพของโอกาส
- ถ้า PSxG < xG (สำหรับการยิงตรงกรอบ) อาจบ่งบอกว่าผู้ยิงจบสกอร์ได้ไม่ดีเท่าที่ควรจากโอกาสนั้นๆ (เช่น ยิงตรงตัวผู้รักษาประตูจากโอกาสที่ควรเป็นประตู)
ค่า PSxG มีประโยชน์อย่างยิ่งในการประเมินความสามารถของผู้รักษาประตูด้วยเช่นกัน โดยการเปรียบเทียบจำนวนประตูที่เสียไปกับค่า PSxG ทั้งหมดที่พวกเขาเผชิญ
เปรียบเทียบปัจจัยที่มีผลต่อ xG ผ่าน Radar Chart
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้นว่าปัจจัยต่างๆ ส่งผลต่อค่า Expected Goals (xG) อย่างไร ลองพิจารณา Radar Chart ด้านล่างนี้ ซึ่งแสดงการประเมินเชิงคุณภาพของปัจจัยหลัก 5 ประการสำหรับสถานการณ์การยิงที่แตกต่างกัน 4 รูปแบบ ได้แก่ การยิงจุดโทษ, การยิงจ่อๆ (Tap-in), การยิงไกลนอกกรอบ และการโหม่งจากลูกครอส ค่าที่สูง (ใกล้เคียง 1) หมายถึงปัจจัยนั้นเอื้อต่อการเป็นประตูมาก
จากกราฟ จะเห็นได้ว่า:
- จุดโทษ (Penalty): มีค่าสูงในเกือบทุกปัจจัย (ระยะใกล้, มุมดี, ไม่มีความกดดัน, เป็นโอกาสที่ถูกสร้างมาอย่างชัดเจน) ทำให้มีค่า xG สูงมาก
- การยิงจ่อๆ (Tap-in): คล้ายกับจุดโทษในแง่ระยะทางและมุม แต่คุณภาพการแอสซิสต์และความกดดันอาจแตกต่างกันเล็กน้อย แต่โดยรวมยังคงมี xG สูงมาก
- การยิงไกล (Long Shot): ระยะทางไกลและมักมีมุมที่ไม่อำนวยนัก รวมถึงอาจมีความกดดันจากแนวรับ ทำให้มีค่า xG ต่ำ
- การโหม่งจากลูกครอส (Header from Cross): แม้ระยะทางอาจไม่ไกลมาก แต่มักมีความกดดันสูงจากกองหลังคู่แข่ง และการโหม่งโดยทั่วไปมีโอกาสเป็นประตูต่ำกว่าการยิงด้วยเท้า ทำให้ค่า xG อยู่ในระดับปานกลางหรือต่ำ ขึ้นอยู่กับคุณภาพของลูกครอสและตำแหน่งการโหม่ง
สรุปภาพรวมการคำนวณ xG ด้วย Mindmap
Mindmap ด้านล่างนี้จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมขององค์ประกอบและกระบวนการในการคำนวณ Expected Goals (xG) ได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น โดยจะสรุปปัจจัยสำคัญ วิธีการ และการนำไปประยุกต์ใช้
mindmap
root["การคำนวณ Expected Goals (xG)"]
id1["ปัจจัยหลักที่มีผลต่อ xG"]
id1a["ระยะทางจากประตู"]
id1b["มุมในการยิง"]
id1c["ส่วนของร่างกายที่ใช้ยิง
(เท้า, ศีรษะ, อื่นๆ)"]
id1d["ประเภทการแอสซิสต์
(จ่ายทะลุช่อง, เปิดจากด้านข้าง, ฯลฯ)"]
id1e["สถานการณ์การเล่น
(Open Play, Set-piece, Penalty)"]
id1f["ความกดดันจากฝ่ายรับ"]
id2["กระบวนการคำนวณ"]
id2a["การรวบรวมข้อมูล
(ฐานข้อมูลการยิงจำนวนมาก)"]
id2b["การสร้างโมเดลทางสถิติ"]
id2b1["Logistic Regression"]
id2b2["Machine Learning (เช่น XGBoost)"]
id2c["กำหนดค่าความน่าจะเป็น (0-1)"]
id3["ประเภทของ xG"]
id3a["Pre-Shot xG
(คุณภาพโอกาสก่อนยิง)"]
id3b["Post-Shot xG (PSxG / xGOT)
(คุณภาพการยิงเมื่อตรงกรอบ)"]
id4["การนำ xG ไปใช้"]
id4a["วิเคราะห์ประสิทธิภาพทีม"]
id4b["ประเมินฟอร์มผู้เล่น (การจบสกอร์)"]
id4c["เปรียบเทียบกับประตูที่เกิดขึ้นจริง"]
id4d["ช่วยในการตัดสินใจของโค้ชและแมวมอง"]
Mindmap นี้แสดงให้เห็นว่า xG ไม่ได้เป็นเพียงตัวเลขเดี่ยวๆ แต่เป็นผลลัพธ์จากกระบวนการวิเคราะห์ที่ซับซ้อน ซึ่งพิจารณาหลายแง่มุมของโอกาสในการทำประตู ทำให้เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างยิ่งในการทำความเข้าใจเกมฟุตบอลในเชิงลึก
ตารางสรุปผลกระทบของปัจจัยต่างๆ ต่อค่า xG
ตารางด้านล่างนี้สรุปให้เห็นภาพรวมว่าปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้นส่งผลต่อค่า Expected Goals (xG) โดยทั่วไปอย่างไร
ปัจจัย (Factor) |
ลักษณะที่ส่งผลให้ xG สูงขึ้น |
ลักษณะที่ส่งผลให้ xG ต่ำลง |
หมายเหตุ |
ระยะทางจากประตู |
ใกล้ประตู (เช่น ในกรอบ 6 หลา) |
ไกลจากประตู (เช่น นอกกรอบเขตโทษ) |
เป็นปัจจัยสำคัญอันดับต้นๆ |
มุมในการยิง |
มุมกว้าง, ตำแหน่งตรงกลาง |
มุมแคบ, ด้านข้างของประตู |
มุมที่ดีช่วยเพิ่มโอกาสอย่างมาก |
ส่วนของร่างกายที่ใช้ยิง |
เท้า (โดยเฉพาะข้างถนัด) |
ศีรษะ, ส่วนอื่นๆ |
การยิงด้วยเท้าควบคุมทิศทางและน้ำหนักได้ดีกว่า |
ประเภทการแอสซิสต์/การสร้างโอกาส |
จ่ายทะลุช่องให้หลุดเดี่ยว, ได้บอลโล่งๆ หน้าประตู |
การเปิดบอลโด่งๆ เข้าไปลุ้น, การยิงจากจังหวะที่ยากลำบาก |
คุณภาพของการสร้างสรรค์โอกาสมีผลโดยตรง |
ความกดดันจากฝ่ายรับ |
ไม่มีผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามกดดันหรืออยู่ใกล้ |
มีผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามกดดัน, บล็อก, หรืออยู่ขวางหน้า |
ลดเวลาและพื้นที่ในการตัดสินใจของผู้ยิง |
สถานการณ์พิเศษ |
จุดโทษ |
ฟรีคิกจากระยะไกลมาก |
จุดโทษมีค่า xG สูงและค่อนข้างคงที่ (ประมาณ 0.76-0.79) |
การยิงซ้ำ (Rebound) |
ยิงซ้ำจ่อๆ จากระยะใกล้มาก |
ยิงซ้ำจากระยะไกลหรือมุมแคบ |
มักมี xG สูงหากเกิดขึ้นในระยะอันตราย |
สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าปัจจัยเหล่านี้ทำงานร่วมกัน โมเดล xG ที่ดีจะพิจารณาปฏิสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยต่างๆ เพื่อให้ได้ค่า xG ที่แม่นยำที่สุดสำหรับแต่ละโอกาสในการยิง
ชมวิดีโอ: ทำความเข้าใจ xG ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
วิดีโอนี้จะอธิบายแนวคิดของ Expected Goals (xG) วิธีการคำนวณเบื้องต้น การนำไปใช้ และสิ่งที่ xG สามารถบอกเราได้เกี่ยวกับเกมฟุตบอล การทำความเข้าใจผ่านภาพและคำอธิบายเพิ่มเติมจะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมและประโยชน์ของสถิตินี้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
Expected Goals - Everything you need to know! (xG) - Football: วิดีโออธิบายหลักการของ xG โดยละเอียด
วิดีโอนี้จะช่วยเสริมความเข้าใจว่า xG ไม่ใช่แค่ตัวเลขที่ซับซ้อน แต่เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการวิเคราะห์เกมฟุตบอล โดยจะอธิบายถึงปัจจัยต่างๆ ที่นำมาพิจารณา เช่น ระยะยิง มุมยิง และอื่นๆ รวมถึงตัวอย่างการนำ xG ไปใช้ในการประเมินผลงานของทีมและผู้เล่น
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการคำนวณ xG
Q: xG คำนวณเหมือนกันทุกผู้ให้บริการหรือไม่?
A: ไม่จำเป็น โมเดล xG ของแต่ละผู้ให้บริการ (เช่น Opta, StatsBomb, Wyscout) อาจมีความแตกต่างกันเล็กน้อยในแง่ของข้อมูลที่ใช้ฝึกสอนโมเดล ปัจจัยที่นำมาพิจารณา หรือวิธีการทางสถิติที่ใช้ อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปแล้วหลักการพื้นฐานและปัจจัยสำคัญที่ใช้จะคล้ายคลึงกัน ทำให้ค่า xG ที่ได้มักจะใกล้เคียงกันในระดับหนึ่ง
Q: xG สามารถทำนายผลการแข่งขันได้แม่นยำแค่ไหน?
A: xG ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อทำนายผลการแข่งขันโดยตรง แต่เป็นการวัดคุณภาพของโอกาสในการทำประตู ทีมที่มี xG สูงกว่าในเกมหนึ่ง ไม่ได้หมายความว่า "ควรจะ" ชนะเสมอไป เพราะฟุตบอลมีปัจจัยอื่นๆ อีกมาก เช่น ความผิดพลาดส่วนบุคคล ดวง หรือความสามารถในการจบสกอร์ที่เหนือกว่า/ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย อย่างไรก็ตาม ในระยะยาว ทีมที่สร้าง xG ได้สูงอย่างสม่ำเสมอมักจะมีผลงานที่ดี
Q: ค่า xG ที่ "ดี" ควรเป็นเท่าไร?
A: ไม่มีค่า xG ที่ "ดี" แบบตายตัว เพราะขึ้นอยู่กับบริบทของเกมและจำนวนโอกาสที่สร้างขึ้น การดูค่า xG รวมของทีมในหนึ่งแมตช์ (เช่น 1.5 xG) จะบอกว่าทีมนั้นๆ สร้างโอกาสที่โดยเฉลี่ยแล้วควรจะเป็น 1.5 ประตู การเปรียบเทียบ xG กับจำนวนประตูที่ทำได้จริง (Goals - xG) จะให้ภาพที่น่าสนใจกว่า เช่น ถ้าทีมทำได้ 3 ประตูจาก 1.5 xG แสดงว่าจบสกอร์ได้ดีเยี่ยม (หรืออาจมีโชคช่วย) ในวันนั้น
Q: เราสามารถคำนวณ xG เองได้หรือไม่?
A: การสร้างโมเดล xG ที่มีความแม่นยำสูงจำเป็นต้องมีฐานข้อมูลการยิงจำนวนมหาศาลและมีความรู้ทางสถิติและการเขียนโปรแกรม อย่างไรก็ตาม มีแหล่งข้อมูลและเครื่องมือออนไลน์บางแห่งที่ให้ข้อมูล xG หรือมีเครื่องคำนวณ xG แบบง่ายๆ ให้ทดลองใช้ แต่สำหรับโมเดลที่ซับซ้อนและแม่นยำมักจะเป็นของผู้ให้บริการข้อมูลกีฬารายใหญ่
คำแนะนำสำหรับการค้นคว้าเพิ่มเติม
หากคุณต้องการเจาะลึกเรื่อง xG และสถิติฟุตบอลขั้นสูงเพิ่มเติม ลองค้นหาด้วยคำค้นหาเหล่านี้:
แหล่งอ้างอิง
ข้อมูลสำหรับการตอบคำถามนี้รวบรวมและสังเคราะห์มาจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือหลายแห่ง ได้แก่: