ณ วันที่ 17 พฤษภาคม 2025 การลงทุนในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทั่วโลกกำลังพุ่งทะยานอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของ AI ในการขับเคลื่อนนวัตกรรม การเติบโตทางเศรษฐกิจ และการเปลี่ยนแปลงในหลากหลายอุตสาหกรรม ประเทศต่างๆ ทั่วโลกต่างแข่งขันกันเพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำในเวที AI โดยมีการทุ่มเม็ดเงินลงทุนมหาศาลทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน บทความนี้จะพาไปสำรวจ 10 ประเทศที่ลงทุนในการสร้างและพัฒนา AI มากที่สุดในโลก พร้อมทั้งวิเคราะห์แนวโน้มและปัจจัยสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการลงทุนเหล่านี้
การลงทุนภาคเอกชนทั่วโลกใน AI ในปี 2024 เพิ่มขึ้นถึง 44.5% เมื่อเทียบกับปี 2023 ซึ่งเป็นการเติบโตรายปีครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2021 ความร้อนแรงนี้ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการวิจัยและพัฒนาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการนำ AI ไปประยุกต์ใช้จริงในภาคส่วนต่างๆ เช่น การดูแลสุขภาพ การเงิน การผลิต ยานยนต์ และการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Generative AI หรือ AI ที่สามารถสร้างสรรค์เนื้อหาใหม่ๆ ได้ กลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดการลงทุนมหาศาล โดยสหรัฐอเมริกามีการลงทุนในด้านนี้สูงกว่าสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักรรวมกันถึง 25.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024
รัฐบาลทั่วโลกก็ตื่นตัวและเพิ่มการลงทุนควบคู่ไปกับการออกกฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับ AI มากขึ้น ในปี 2024 หน่วยงานรัฐบาลกลางของสหรัฐฯ ได้ออกกฎระเบียบเกี่ยวกับ AI ถึง 59 ฉบับ เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากปี 2023 ขณะที่ในระดับโลก การกล่าวถึง AI ในร่างกฎหมายเพิ่มขึ้น 21.3% ใน 75 ประเทศตั้งแต่ปี 2023 สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการสร้างสมดุลระหว่างการส่งเสริมนวัตกรรมและการจัดการความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นจากเทคโนโลยีนี้
ภาพแสดงการลงทุนภาคเอกชนใน AI ทั่วโลก โดยเน้นย้ำถึงความเป็นผู้นำของสหรัฐอเมริกา
การจัดอันดับนี้อ้างอิงจากข้อมูลการลงทุนภาคเอกชนสะสมใน AI ระหว่างปี 2013-2024 เป็นหลัก และข้อมูลการลงทุนในปี 2024 จากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เช่น รายงาน AI Index 2025 โดย Stanford University's Human-Centered AI Institute (HAI), Statista และการวิเคราะห์จากสื่อชั้นนำ
สหรัฐอเมริกายังคงครองตำแหน่งผู้นำอย่างแข็งแกร่ง ด้วยการลงทุนภาคเอกชนในปี 2024 เพียงปีเดียวสูงถึง 109.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของการลงทุนทั่วโลก แรงขับเคลื่อนสำคัญมาจากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Google, Microsoft, Meta (Facebook), Amazon และ NVIDIA รวมถึงระบบนิเวศสตาร์ทอัพ AI ที่แข็งแกร่ง ทำให้สหรัฐฯ เป็นศูนย์กลางของนวัตกรรม การวิจัย และการพัฒนา AI อย่างแท้จริง
จีนตามมาเป็นอันดับสอง โดยมีการลงทุนภาคเอกชนที่สำคัญในปี 2024 และมีแรงหนุนจากยุทธศาสตร์ระดับชาติที่มุ่งเน้นการพัฒนา AI อย่างจริงจัง เช่น กองทุนสนับสนุนอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์มูลค่ากว่า 47.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จีนให้ความสำคัญกับการนำ AI ไปใช้ในภาคการผลิต อุตสาหกรรม 5G ยานยนต์อัตโนมัติ และเมืองอัจฉริยะ บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของจีนเช่น Baidu และ Tencent ก็มีการลงทุนใน AI อย่างต่อเนื่อง
สหราชอาณาจักรเป็นผู้นำด้าน AI ในยุโรป ด้วยการลงทุนภาคเอกชนที่แข็งแกร่ง (ประมาณ 4.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024) และระบบนิเวศของสตาร์ทอัพ สถาบันวิจัย และมหาวิทยาลัยชั้นนำ รัฐบาลอังกฤษยังให้การสนับสนุนการพัฒนา AI อย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลก
อิสราเอลมีชื่อเสียงในฐานะ "Startup Nation" และเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม AI โดยเฉพาะในกลุ่มสตาร์ทอัพเทคโนโลยีเชิงลึก (Deep Tech) ประเทศนี้ดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติจำนวนมากเพื่อพัฒนาเทคโนโลยี AI สำหรับการแพทย์ ความปลอดภัยทางไซเบอร์ และอุตสาหกรรมอื่นๆ
สิงคโปร์เป็นศูนย์กลาง AI ที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รัฐบาลสิงคโปร์มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ AI แห่งชาติ โดยมุ่งเน้นการนำ AI ไปใช้ในภาคบริการ การเงิน การขนส่งอัจฉริยะ และการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart Nation)
เกาหลีใต้มีการลงทุนใน AI อย่างมีนัยสำคัญ โดยได้รับการขับเคลื่อนจากยุทธศาสตร์ระดับชาติและโครงการเมืองอัจฉริยะ บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ เช่น Samsung และ LG ต่างก็ทุ่มเททรัพยากรในการวิจัยและพัฒนา AI เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์
สวีเดนเป็นอีกหนึ่งประเทศในยุโรปที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนา AI โดยเน้นนวัตกรรมและซอฟต์แวร์ ประเทศนี้มีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโตของสตาร์ทอัพเทคโนโลยี และมีการลงทุนใน AI เพื่อประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ
ญี่ปุ่นมุ่งเน้นการพัฒนา AI เพื่อแก้ปัญหาสังคมผู้สูงอายุและเพิ่มประสิทธิภาพในภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านหุ่นยนต์ (Robotics) และเทคโนโลยีอัตโนมัติ โครงการ "Society 5.0" ของญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญในการนำ AI มาใช้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต
ออสเตรเลียกำลังเพิ่มการลงทุนใน AI อย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการสนับสนุนการวิจัยและการนำ AI ไปประยุกต์ใช้ในภาคการเกษตร ทรัพยากรธรรมชาติ และการดูแลสุขภาพ ประเทศนี้มีศักยภาพในการเป็นผู้เล่นสำคัญในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
สวิตเซอร์แลนด์เป็นศูนย์กลางการวิจัยและนวัตกรรม AI ที่สำคัญในยุโรป ประเทศนี้ดึงดูดการลงทุนจากบริษัทระดับโลกด้วยสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการวิจัยและพัฒนา โดยเฉพาะในด้านสุขภาพ การเงิน และเทคโนโลยีขั้นสูง
ตารางด้านล่างนี้สรุปข้อมูลการลงทุนภาคเอกชนโดยประมาณใน AI ของ 10 ประเทศชั้นนำของโลก โดยอ้างอิงจากข้อมูลสะสมระหว่างปี 2013-2024 หรือข้อมูลล่าสุดในปี 2024
อันดับ | ประเทศ | มูลค่าการลงทุนภาคเอกชนโดยประมาณ (ดอลลาร์สหรัฐ) | หมายเหตุสำคัญ |
---|---|---|---|
1 | สหรัฐอเมริกา | ~471 พันล้าน (สะสม 2013-2024) | ผู้นำด้านนวัตกรรมและบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ |
2 | จีน | ~9.3 พันล้าน (ปี 2024); (สะสมสูงกว่านี้) | เน้นยุทธศาสตร์ชาติและการลงทุนภาครัฐและเอกชน |
3 | สหราชอาณาจักร | ~28.2 พันล้าน (สะสม 2013-2024) | ผู้นำ AI ในยุโรป, ระบบนิเวศสตาร์ทอัพแข็งแกร่ง |
4 | อิสราเอล | ~15.0 พันล้าน (สะสม 2013-2024) | ศูนย์กลางนวัตกรรมและสตาร์ทอัพ AI |
5 | สิงคโปร์ | ~7.3 พันล้าน (สะสม 2013-2024) | ยุทธศาสตร์ Smart Nation และการลงทุนภาครัฐ |
6 | เกาหลีใต้ | ~7.3 พันล้าน (สะสม 2013-2024) | เน้นอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและเมืองอัจฉริยะ |
7 | สวีเดน | ~7.3 พันล้าน (สะสม 2013-2024) | นวัตกรรมซอฟต์แวร์และสตาร์ทอัพเทคโนโลยี |
8 | ญี่ปุ่น | ~5.9 พันล้าน (สะสม 2013-2024) | มุ่งเน้นหุ่นยนต์และเทคโนโลยีอัตโนมัติ |
9 | ออสเตรเลีย | ~4.0 พันล้าน (สะสม 2013-2024) | การวิจัยและการประยุกต์ใช้ในหลายอุตสาหกรรม |
10 | สวิตเซอร์แลนด์ | ~3.9 พันล้าน (สะสม 2013-2024) | ศูนย์กลางการวิจัย AI ในยุโรป โดยเฉพาะด้านสุขภาพและการเงิน |
เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้นเกี่ยวกับความแข็งแกร่งด้าน AI ของประเทศต่างๆ แผนภูมิเรดาร์ด้านล่างนี้เปรียบเทียบ 5 ประเทศชั้นนำในมิติต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนและการพัฒนา AI ได้แก่ การลงทุนภาคเอกชน, โครงการริเริ่มภาครัฐ, ระบบนิเวศการวิจัยและพัฒนา (R&D), บุคลากรผู้มีความสามารถด้าน AI, และการมุ่งเน้นพัฒนา Generative AI คะแนนที่สูงกว่าแสดงถึงความแข็งแกร่งในมิตินั้นๆ (สเกล 3-10 โดย 10 คือดีที่สุด)
จากแผนภูมิ จะเห็นได้ว่าสหรัฐอเมริกามีความโดดเด่นในเกือบทุกมิติ โดยเฉพาะการลงทุนภาคเอกชนและ Generative AI ขณะที่จีนแสดงความแข็งแกร่งด้านโครงการริเริ่มภาครัฐ ส่วนสหราชอาณาจักรและอิสราเอลมีระบบนิเวศ R&D ที่น่าประทับใจ และสิงคโปร์มีความโดดเด่นในด้านการสนับสนุนจากภาครัฐและการสร้างบุคลากร
แผนผังความคิด (Mindmap) ด้านล่างนี้แสดงให้เห็นถึงปัจจัยหลักๆ ที่เป็นแรงขับเคลื่อนให้เกิดการลงทุนในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่างมหาศาลทั่วโลก ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่แรงจูงใจทางเศรษฐกิจไปจนถึงยุทธศาสตร์ระดับชาติและนวัตกรรมทางเทคโนโลยี
แผนผังนี้แสดงให้เห็นว่าการลงทุนใน AI ไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยปัจจัยเดียว แต่เป็นผลมาจากหลายปัจจัยที่เชื่อมโยงกัน ตั้งแต่ความต้องการทางเศรษฐกิจไปจนถึงแรงผลักดันทางเทคโนโลยีและนโยบาย ซึ่งทั้งหมดนี้รวมกันเป็นพลังขับเคลื่อนการปฏิวัติ AI ที่เรากำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน
วีดีโอด้านล่างนี้ให้ภาพรวมของการแข่งขันด้านการลงทุนใน AI ระหว่างประเทศต่างๆ ทั่วโลก และเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของแต่ละประเทศในการเป็นผู้นำเทคโนโลยีแห่งอนาคตนี้ การทำความเข้าใจพลวัตของการแข่งขันนี้จะช่วยให้เห็นภาพรวมของการพัฒนา AI ในระดับสากลได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
วีดีโอ "AI Race: Top 10 Countries Investing Billions!" แสดงภาพรวมการลงทุน AI ของประเทศชั้นนำ
วีดีโอนี้สำรวจว่าประเทศใดบ้างที่กำลังทุ่มงบประมาณมหาศาลเพื่อพัฒนา AI โดยเน้นไปที่สหรัฐอเมริกา จีน และประเทศอื่นๆ ที่มีความโดดเด่น พร้อมทั้งวิเคราะห์ว่าการลงทุนเหล่านี้ส่งผลต่อภูมิทัศน์ทางเทคโนโลยีและเศรษฐกิจโลกอย่างไร การแข่งขันนี้ไม่เพียงแต่เป็นการแย่งชิงความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยี แต่ยังเป็นการวางรากฐานสำหรับอนาคตที่ AI จะเข้ามามีบทบาทในทุกมิติของชีวิต
หากคุณสนใจที่จะเจาะลึกเกี่ยวกับการลงทุนและพัฒนา AI ในมิติต่างๆ ลองค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมด้วยคำค้นหาเหล่านี้: